หลังแบ่งกันเตะในหลายวันสำหรับเกมไทยลีกวีกที่ 13 ที่จบกันไปอย่างครบครัน 8 คู่ 8 สนาม

เราจะพาไปดูนักเตะคนไหนที่โชว์ฟอร์มโดดเด่นจนคว้าแมนออฟเดอะแมตช์ไปได้ จะมีดีอย่างไรและเป็นใครกันบ้างไปดูพร้อมกันเลยเริ่มกันที่คู่กลางสัปดาห์ที่ขยับมาเตะกันก่อน โดยเกมนี้แมนออฟเดอะแมตช์ตกเป็นของศูนย์หน้าดีกรีทีมชาติไทยที่ยังคงรักษาฟอร์มได้อย่างคงเส้นคงวา ซึ่งเกมนี้เจ้าตัวมีส่วนร่วมกับประตูของทีมแถบทั้งหมด หลังจัดการซัดไป 2 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์พาทีมรั้งจ่าฝูงนำเดี่ยวแบบแต้มเริ่มห่าง

ส่วนอีกคู่ที่ขยับมาเล่นกันก่อน ซึ่งปรากฏว่าผลจบแบบพลิกล็อคเป็นชัยชนะของทีมเยือน จึงทำให้แมนออฟเดอะแมตช์ตกเป็นของแนวรับรายนี้ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น จัดการปั่นกวาดเกมรุกของเจ้าถิ่นได้หลายจังหวะ ทั้งการเล่นที่ทุ่มเทเข้าสกัดถึงบอลทุกจังหวะจนช่วยทีมเก็บสามแต้มออกมาได้เกมไฟร์เดย์ไนท์ที่ผลสกอร์จบกันไปแบบถล่มทลาย ซึ่งเกมนี้กองหน้าตัวความหวังของทีมเยือนโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นเหมือนเดิม หลังทำไป 2 ประตู ช่วยทีมเก็บสามแต้มในเกมนี้ โดยตลอดทั้งเกมเจ้าตัวเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งความทุ่มเทที่คอยสร้างสรรค์โอกาสให้ทีมได้ลุ้นประตูอยู่ตลอดเวลาและเกมรับที่ลงมาช่วยสกัดได้หลายครั้งกองหน้าร่างโย่งของสิงห์เจ้าท่ายังเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมเสมอเมื่อต้องการประตู โดยเกมนี้เจ้าตัวจัดการไป 1 ประตูปิดกล่องให้ทีมเก็บชัยชนะได้ ซึ่งตลอดทั้งเกมนี้เจ้าตัวมีส่วนร่วมกับทั้งเกมรุกที่จะคอยเก็บบอลเพื่อสร้างสรรค์โอกาสให้ทีมและในส่วนของเกมรับที่ลงมาช่วยสกัดลูกกลางอากาศเอาไว้ได้หลายต่อหลายครั้งมิดฟิลด์ดีกรีทีมชาติไทยยังคอยเป็นส่วนสำคัญของทีมอยู่เสมอ

โดยเกมนี้เจ้าตัวสามารถเรียกฟอร์มเก่งของเจ้าตัวออกมาช่วยทีมเก็บแต้มกลับไปได้

ซึ่งเกมนี้เขาทำไป 2 แอสซิสต์ เรียกได้ว่ามีส่วนร่วมกับทุกประตูของมีมในเกมนี้เลยแถมยังคอยบัญชาเกมแดนกลองของทีมให้สมดุลอยู่ตลอดอีกหนึ่งเกมดราม่าที่ทำประตูกันในช่วงท้ายเกม ซึ่งนัดนี้เป็นทางฝั่งทีมเยือนที่มาทำได้ตีเสมอช่วยทดเวลาจากกองหลังเกาหลีใต้รายนี้ที่ไม่ได้โดดเด่นแค่เรื่องสกัดบอลป้องกันเกมรุกของเจ้าถิ่นอย่างเดียว ยังสามารถขึ้นมาทำ 1 ประตู

ช่วยทีมตามตีเสมอได้สำเร็จกองกลางที่โชว์ฟอร์มได้อย่างเสมอต้นเสมอปลายอีกคนนึง เกมนี้เจ้าตัวสวมบทฮีโร่ของทีมซัด 1 ประตูเป็นประตูชัยพาทีมเก็บสามแต้มจากบิ๊กทีมได้สำเร็จ ซึ่งนอกจากประตูชัยที่เจ้าตัวทำได้ตลอดทั้งเกมเขาจะคอยคุมเกมแดนกลางทั้งรุกและรับได้เป็นอย่างดี นี่คือนักเตะที่เรียกได้ว่าจากซีโร่สู่ฮีโร่ได้เลย เพราะเกมนี้เจ้าตัวพลาดจุดโทษไป ก่อนที่จะกลับมาทำ 2 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ ช่วยทีมยิงถล่มทลายเก็บชนะปลดล็อคให้กับทุกคนในทีมได้สำเร็จ โดยตลอดทั้งเกมเจ้าตัวมีส่วนร่วมกับเกมรุกของทีมอยู่ตลอดเวลาทั้งคอยเก็บบอลและคอยสร้างสรรค์โอกาสให้กับเพื่อร่วมทีมได้หลายต่อหลายครั้ง ขณะที่ในส่วนของ “โค้ชโจ” ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น อดีตกุนซือพีที ประจวบ เอฟซี เผยว่า

“ขณะนี้ตัวเขาเองยังไม่พร้อมรับงานทีมไหน ขอพักผ่อนสมองชั่วคราวก่อนสักระยะหนึ่งแต่ยังพร้อมรับงานโค้ชอย่างแน่นอน”

ติดตามข่าวสารต่างๆ ได้ที่ visions-uk.com